วันที่ 18 กรกฎาคม 2566 เวลา 11.00 น. ที่อาคารศูนย์กลางการประชุมสัมมนาภาคใต้ตอนบน ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน มอบหมายให้ นายวิฑูรย์ นวลนุกูล รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นประธานในพิธีเปิด โครงการไกล่เกลี่ยและลดความเดือดร้อนให้แก่ลูกหนี้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี โดยมีนายวิชวุทย์ จินโต
ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวต้อนรับ และนายกรองศักดิ์ โอยสวัสดิ์ พัฒนาการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นผู้กล่าวรายงาน มีนายสุรพล แก้วอินธิ ผู้ตรวจราชการกรม ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี นายวีระพล ปักคำไทย ผู้อำนวยการกลุ่มนโยบายและยุทธศาสตร์ และเจ้าหน้าที่สำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เข้าร่วมกิจกรรม
นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชน เป็นหน่วยงานที่ทำงานใกล้ชิดกับประชาชน มีวิสัยทัศน์ “เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” บูรณาการทำงานร่วมกับ 7 ภาคีเครือข่ายในการแก้ไขปัญหาความยากจนแบบบูรณาการ การน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่ปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ผ่านกิจกรรม "ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน" การดำเนินโครงการการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา การส่งเสริมหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) และการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทย ตามโครงการ "ผ้าไทยใส่ให้สนุก" ตามพระราชดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ซึ่งล้านแต่เป็นภารกิจที่กรมการพัฒนาชุมชนมุ่งหวังให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้กับพี่น้องประชาชน
กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เป็นกองทุนหนุนเสริมงานของกรมการพัฒนาชุมชนโดยเป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนดอกเบี้ยต่ำที่เปิดกว้างด้านโอกาสให้สตรีสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน สำหรับการลงทุนเพื่อพัฒนาอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้หรือเสริมสร้างความเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจให้แก่สตรี และองค์กรของสตรี ซึ่งมีสตรีได้รับการสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียน 162,352 โครงการ เป็นเงินจำนวนกว่า 16 ล้านบาท มีสตรีได้รับประโยชน์จำนวน 16.7 ล้านคน และเงินอุดหนุน 46,767 โครงการ เป็นเงิน 2,455 ล้านบาท มีสตรีได้รับประโยชน์ 9.2 ล้านคน เห็นได้ว่า กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเป็นกองทุนที่สำคัญและเป็นประโยชน์กับสตรีมากมาย ซึ่งเงินทุนหมุนเวียน เป็นเงินที่ให้สมาชิกกู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยต่ำและสมาชิกต้องชำระคืน ซึ่งที่ผ่านมาพัฒนาการจังหวัด พัฒนาอำเภอ และเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน ได้ลงพื้นที่ติดตามและสร้างความเข้าใจให้กับสมาชิกเพื่อให้กองทุนฯ สามารถมีเงินหมุนเวียนกระจายโอกาสไปยังสตรีได้ใช้ประโยชน์จากเงินของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีร่วมกัน และกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีได้ออกประกาศมาตรการให้ความช่วยเหลือสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี อาทิ มาตรการลด/งด ดอกเบี้ยผิดนัด การปรับโครงสร้างหนี้ มาตรการไกล่เกลี่ยประนีประนอมยอมความกรณีลูกหนี้ผิดนัด มาตรการปลดลูกหนี้รายบุคคล และล่าสุดได้มีมาตรการลดความเดือดร้อนให้แก่ลูกหนี้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี พ.ศ. 2566 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2566 จึงอยากจะขอความร่วมมือกับสมาชิกที่ได้กู้ยืมเงินชำระเงินคืนตรงตามกำหนด และช่วยกันสร้างงาน สร้างอาชีพ ให้แก่สมาชิกกองทุนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีมีความสุข เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ นายวิฑูรย์ นวลนุกูล รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ได้มอบนโยบายการขับเคลื่อนงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กล่าวว่า การขับเคลื่อนงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเป็นอีกหนึ่งภารกิจที่กรมการพัฒนาชุมชนได้ให้ความสำคัญและได้กำหนดเป้าหมายการขับเคลื่อนงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 “การบริหารจัดการหนี้ลดลงไม่เกินร้อยละ 10” นอกจากนี้ยังคงให้ความสำคัญกับการรับเงินชำระคืนจากสมาชิกและสามารถหมุนเวียนออกไปให้กับพี่น้องสตรีได้เข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเงินดังกล่าวอย่างสูงสุด จึงเป็นที่มาของมาตรการลดความความเดือดร้อนให้แก่ลูกหนี้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี พ.ศ. 2566 ซึ่งมีระยะเวลาในการดำเนินการเพียงแค่ 2 เดือน ซึ่งเป็นเวทีที่ทุกจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด และกรุงเทพมหานครต้องดำเนินการ ซึ่งจังหวัดสุราษฎร์ธานีกำหนดเป้าหมายการบริหารจัดการหนี้จากปัจจุบัน ร้อยละ 39 ให้ลดลงเหลือเพียงร้อยละ 30 ภายในเดือนกันยายน 2566 นี้ และขอชื่นชมในหลายอำเภอที่สามารถบริหารจัดการหนี้ลดลงได้ ขอบคุณกลไกการขับเคลื่อนงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีและภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน รวมทั้งนายอำเภอ พัฒนาการอำเภอ ที่เป็นเรี่ยวแรงหลัก และเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนที่เป็นกำลังหนุนเสริมให้สามารถขับเคลื่อนงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ นายสุรพล แก้วอินธิ และเจ้าหน้าที่สำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ได้ทักทาย และให้ความรู้แก่สมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เกี่ยวกับมาตรการลดความเดือดร้อนให้แก่ลูกหนี้ฯ พร้อมเน้นย้ำทิศทางการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแก่พัฒนาการอำเภอ และเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน ในการจัดกิจกรรมดังกล่าว โดยหากลูกหนี้ค้างชำระเต็มจำนวน
1. จ่ายเงินต้น และดอกเบี้ยตามสัญญาทั้งหมดจะได้สิทธิ์งดดอกเบี้ยผิดนัด 100%
2. จ่ายเงินต้นไม่น้อยกกว่า 20% จะได้รับสิทธิ์ลดดอกเบี้ยผิดนัด 90%
หากลูกหนี้ค้างชำระบางส่วน
1. จ่ายเงินต้น และดอกเบี้ยตามสัญญาทั้งหมดจะได้สิทธิ์งดดอกเบี้ยผิดนัด 100%
2. จ่ายเงินต้น และดอกเบี้ยตามสัญญาทั้งหมด (ตามงวดที่ค้าง)จะได้รับสิทธิ์งดดอกเบี้ยผิดนัด 100%
3. จ่ายเงินต้นไม่น้อยกว่า 20% จะได้รับสิทธิ์ลดดอกเบี้ยผิดนัด 90%
ภายในงานได้รับเกียรติจากนางสาวมัตติญา คารว์ รองอัยการจังหวัด และคณะ จากสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เปิดให้บริการให้คำปรึกษาด้านกฎหมายเรื่องบทบาทของเจ้าหนี้และลูกหนี้ กรณีผิดนัดชำระหนี้ และคดีความต่าง ๆ โดยมีสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเข้าขอรับคำปรึกษาหลายราย การจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่มอาชีพสมาชิกกองทุนฯ จำนวน 16 กลุ่ม การจัดนิทรรศการ "ผ้าไทย ใส่ให้สนุก" โดยการรวบรวมลายผ้าของกลุ่มในจังหวัดสุราษฎร์ธานีมาจัดแสดงไว้ในงาน รวมถึง นายอนันต์ เจริญมี ครัวเรือนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่โคก หนอง นา ร่วมจัดนิทรรศการแสดงการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้จนเป็นวิถีชีวิตเพื่อเป็นต้นแบบแก่สมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีอีกด้วย ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงาน สำหรับกิจกรรมในวันนี้การจัด Women Fund's Mobile Clinic เคลื่อนที่ มีสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เข้าร่วมมาตรการฯ จำนวน 9 กลุ่ม เป็นเงินมูลค่าหนี้ทั้งสิ้น 194,632.07 บาท ชำระแล้ว จำนวน 58,000 บาท และอีก 10 กลุ่มจะดำเนินการ ณ สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอ
ภาพ/ข่าว : งานเครือข่ายสัมพันธ์ กลุ่มพัฒนาศักยภาพกองทุน สำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี
#MOI
#กระทรวงมหาดไทย
#SDGTH
#บำบัดทุกข์บำรุงสุข
#cdd
#changeforgood
#กรมการพัฒนาชุมชน
#กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี